การปฏิวัติ ค.ศ. 1848: ปรากฎการณ์ที่ทวงคืนอำนาจและความเท่าเทียมจากกษัตริย์

สำหรับนักประวัติศาสตร์หลายคน การปฏิวัติปี ค.ศ. 1848 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองอย่างกว้างขวาง ทลายล้างระบบระบอบราชาธิปไตยแบบเก่า และนำไปสู่การสถาปนาประเทศชาติตามแนวคิดเสรีนิยม

ในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ค.ศ. 1848 ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ทวงคืนอำนาจและความเท่าเทียมจากกษัตริย์ ผู้ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ Karl Marx (คาร์ล มาร์กซ์) นักเศรษฐศาสตร์ โปรดักส์ และนักปรัชญาชาวเยอรมัน

มาร์กซ์ เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นทฤษฎี “วัตถุนิยมเชิงประวัติศาสตร์” ซึ่งอธิบายถึงการพัฒนาของสังคมมนุษย์ผ่านการต่อสู้ของชนชั้น มาร์กซ์ เชื่อว่าประวัติศาสตร์ถูกขับเคลื่อนโดยความขัดแย้งระหว่างชนชั้นที่เป็นเจ้าของวิธีการผลิต (ชนชั้นนายทุน) และชนชั้นที่ต้องขายแรงงานของตน (ชนชั้น proletariat)

ในช่วงการปฏิวัติ ค.ศ. 1848 มาร์กซ์ได้ร่วมมือกับ Friedrich Engels (ฟรีดริช เอนเกลส์) เพื่อเผยแพร่หนังสือ “The Communist Manifesto” (ธรรมนูญคอมมิวนิสต์) ซึ่งกลายเป็นข้อความสำคัญของขบวนการคอมมิวนิสต์

“The Communist Manifesto”

ข้อเรียกร้อง	คำอธิบาย
ปิดล้างการครอบงำของชนชั้นนายทุน	มาร์กซ์และเอนเกลส์เสนอว่าชนชั้น proletariat ต้องต่อสู้กับชนชั้นนายทุนเพื่อโค่นล้มระบอบทุนนิยม
โอนความเป็นเจ้าของวิธีการผลิตไปยังชนชั้น proletariat	พวกเขาโต้แย้งว่าการควบคุมวิธีการผลิตโดยชนชั้น proletariat จะนำไปสู่สังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียม
สร้างสังคมคอมมิวนิสต์	มาร์กซ์และเอนเกลส์เชื่อว่าสังคมคอมมิวนิสต์จะเป็นสังคมที่ไม่มีความไม่เท่าเทียมกันและการเอารัดเอาเปรียบ

มาร์กซ์ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมการปฏิวัติโดยตรง แต่ “The Communist Manifesto” ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากในการต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง และมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองในศตวรรษที่ผ่านมา

แม้ว่าการปฏิวัติ ค.ศ. 1848 จะไม่ประสบความสำเร็จในการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ แต่ก็ได้จุดประกายความตื่นตัวของชนชั้น proletariat และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างใหญ่หลวง

มาร์กซ์และเอนเกลส์ได้อธิบายถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมทุนนิยมและเสนอแนวทางการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียม

บทสรุป

การปฏิวัติ ค.ศ. 1848 เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ยุโรป ซึ่งได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองอย่างกว้างขวาง แม้ว่า Karl Marx จะไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการปฏิวัติ แต่ “The Communist Manifesto” ของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากในการต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง และมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองในศตวรรษที่ผ่านมา.